นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ขอบคุณประชาชนในจังหวัดปทุมธานี ว่าเป็นพื้นที่ที่ยังไม่ได้มาขอบคุณประชาชน หลังชนะเลือกตั้ง 6 เขตเลือกตั้งจาก 7 เขต รวมคะแนนแล้วกว่า 330,000 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 75 ของชาวปทุมธานี และนับจากนี้เหลืออีก 3 วันที่จะถึงวันที่ 13 กรกฎาคมวันโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น ยังมีเรื่องต่างๆที่ต้องคอยบริหารจัดการ จึงไม่มีอะไรที่เกินความคาดหมายและพร้อมที่จะบริหารจัดการแก้ไขปัญหาทีละเรื่อง
“จตุพร” ชี้ “พิธา” ไม่มีลุ้นนั่งนายกฯคนที่ 30 ปูดเกมผลักเป็นฝ่ายค้าน
จับตา! 8 พรรคร่วมนัดหารือ ก่อนโหวตนายกคนที่ 30
นายพิธา ยังเปิดเผยว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีหนังสือเรียกชี้แจง กรณีหุ้นไอทีวี จาก กกต. ทั้งที่พรรคก้าวไกลและที่บ้านพัก และทราบมาว่าไม่มีการเรียกไปชี้แจงโดยฉับพลันตามที่มีการสอบถามมา ขณะเดียวกันทีมกฎหมายก็ได้เตรียมสแตนด์บายและที่บ้านพักก็ให้คนคอยติดตาม หากมีหนังสือเรียกชี้แจงก็พร้อมที่จะไปชี้แจง
ส่วนกรณีมีข้อสังเกตว่าหาก กกต. จะมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญโดยไม่เปิดให้ชี้แจงจะถือว่ามีความเป็นธรรมหรือไม่นั้น นายพิธาระบุว่า ในทางปฏิบัติขัดต่อระเบียบ กกต. ก็เห็นสอดคล้องกับนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ที่บอกว่ามีการเร่งรัด จึงต้องมีการเรียกร้องเรื่องความเป็นกลาง และความเป็นธรรมของ กกต. พอสมควร
นายพิธา ระบุว่ายังไม่ได้ทราบรายละเอียดกรณีที่มีสมาชิกวุฒิสภามีแนวคิดที่จะเสนอญัตติให้เลื่อนวันโหวตนายกรัฐมนตรีออกไป สาเหตุจากเรื่องการส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความวินิจฉัยการถือหุ้นไอทีวี โดยเห็นว่าในเรื่องนี้เป็นเรื่องวินิจฉัยของประธานรัฐสภา จึงไม่สามารถที่จะให้ความเห็นได้ ส่วนเรื่องวิธีการโหวตว่าจะโหวตตามรายชื่อของสมาชิกรัฐสภา 750 คนหรือจะแบ่งเป็นการโหวตของ ส.ส.500 คน และ ส.ว.อีก 250 คน เป็นอำนาจของประธานรัฐสภา
ส่วนการประชุมวิป 3 ฝ่ายในวันพรุ่งนี้จะเป็นการหารือเรื่องของขั้นตอนการโหวตนายกรัฐมนตรี ส่วนจะราบรื่นหรือไม่นั้นก็อยู่ที่วิปจะสามารถดำเนินการได้ และคิดว่าไม่ใช่ก็เป็นเรื่องของโชคชะตาฟ้าดินที่ทำให้การโหวตในวันดังกล่าวนั้นเป็นไปด้วยความราบรื่นผ่านฉลุยและเป็นไปตามที่คาดหวัง แต่เป็นเรื่องที่สำคัญของประชาชนที่จะมีผู้นำประเทศในช่วงที่ปัญหาต่างๆกำลังถาโถมเข้ามา แต่ยอมรับว่าจะต้องสู้กับฟ้าฝนมากกว่าพึ่งฟ้าฝนเนื่องจากกำลังเผชิญกับปัญหาภัยแล้ง โดยในวันพรุ่งนี้จะไปหารือกับจิสด้าด้วย
นายพิธายังปฏิเสธ ถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าการลงพื้นที่พบประชาชนแบบถี่ยิบเนื่องจากยังไม่ได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ที่เพียงพอตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมกับชี้แจงว่า ไม่ได้ใช้ประชาชนเป็นเกราะกำบัง หรือมาปกป้อง แต่ในทางกลับกัน ตนมีหน้าที่ขอบคุณประชาชน และปกป้องกว่า 25 ล้านเสียง ของ 8 พรรคที่ได้มา โดยจะมายืนยันว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี และเชื่อว่าที่จะไม่มีใครโหวตสวน จึงมาช่วยหล่อเลี้ยงความหวัง ให้ประชาชนและรับฟังปัญหาไปในตัว เพราะประชุม ครม. นัดแรกจะวนไปมาไม่ได้ แจ่จะต้องทำงานทันทีคำพูดจาก ว็บสล็อตต่างประเทศ
และไม่มีการวัดเสียงในสภานอกสภาฯ และชี้แจงว่าตั้งแต่เสร็จสิ้นการเลือกตั้งก็ได้ดำเนินการเช่นนี้มาโดยตลอด ไม่ฉะนั้นประชาชนจะน้อยใจ หลังได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์มาเป็นอันดับ 2
นายพิธา ยังกล่าวว่าไม่มีเรื่องที่น่ากังวลหลังจากมีข้อมูลว่า มีการประเมินจากฝ่ายความมั่นคงว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมในวันที่ 13 กรกฎาคม 14 กลุ่ม ซึ่ง ประธานรัฐสภาได้บริหารจัดการ รองรับประชาชนได้นับ 1 หมื่นคน เชื่อว่าจะราบรื่นและเป็นไปด้วยดี และฝ่ายความมั่นคงจะดูแลเต็มที่ไม่ให้มีการสร้างสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ เพราะส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยคือการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติ
นอกจากนี้ ยังได้แสดงความพร้อมที่จะรับมือกับทุกปัญหาที่จะเข้ามา เตรียมพร้อมตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งจากการติดตามการเมืองก็ได้เห็นว่ามีบางเรื่องที่หาอ่านจากหนังสือไม่ได้เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง จึงได้ทำความเข้าใจกับความรู้สึกตัวเอง ก่อนจะแสดฃงความพร้อมที่จะเผชิญกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมีสติและมีวุฒิภาวะ
ทั้งนี้ระหว่างการสัมภาษณ์มีชายคนหนึ่งตะโกนว่าขอทรงผมทหารคืนด้วย ซึ่งนายพิธาบอกสั้นๆ ว่ารวมถึงเรื่องสิทธิมนุษยชนด้วย